มีคนมาปลูกบ้านบนที่ดินของเรา แล้วเราควรทำอย่างไร ?

on วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556
ถ้าที่ดินของเราจู่ๆก็มีใครไม่รู้เข้าปลูกบ้านลงบนที่ดินของเราหน้าตาเฉยเมื่อเรารู้แล้วเราจะต้องทำอย่างไรจะบอกให้เขารื้อถอนบ้านออกไปทันทีได้หรือไม่
คนปลูกบ้านบนที่เรา
การที่มีใครสักคนเข้าไปปลูกสร้างบ้านลงบนที่ดินของคนอื่นนั้นจะต้องดูก่อนว่าเขามีสิทธิอะไรมารองรับการกระทำนั้นบ้าง ถ้าเป็นการเช่าที่ดินของคนอื่นเพื่อปลูกสร้างบ้านอยู่อาศัยโดยมีสัญญาเช่า ถูกต้อง ก็ไม่มีปัญหาอะไร สัญญาเช่าที่ดินมีเงื่อนไขกำหนดไว้อย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น เช่น เช่าที่ดินกันนานกี่เดือนกี่ปี หรือเมื่อครบกำหนดเวลาตามสัญญาเช่าแล้วให้บ้านตกเป็นของเจ้าของที่ดินทันที ก็ต้องเป็นไปตามนั้น
แต่ถ้ามิใช่เป็นการเช่าที่ดินโดยมีสัญญาเช่าต่อกันการที่มีคนเข้าไปปลูกสร้างบ้านลงบนที่ดินของคนอื่น บ้านหรือโรงเรือนจะเป็นสิทธิของใคร กฎหมายได้คุ้มครองสิทธิของเจ้าของที่ดินไว้ ซึ่งต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไป
  1. ถ้ามีใครมาสร้างบ้านหรือโรงเรือนลงบนที่ดินของเราโดยสุจริต กฎหมายกำหนดว่าให้โรงเรือนนั้นตกเป็นของเราแต่เราต้องชดใช้ราคาของ ที่ดินที่เพียงเท่าที่เพิ่มขึ้น เพราะการมีโรงเรือนขึ้นในที่ดินของเรา (เช่น ที่ดินเปล่าๆ เดิมมีราคา 100,000บาท แต่พอมีคนเข้ามาสร้างบ้านขึ้นในที่ดิน ทำให้ที่ดินมีราคาเพิ่มขึ้นเป็น 120,000 บาท นั่นคือต้องใช้ราคาที่ดินส่วนที่เพิ่มขึ้น 20,000 บาท ให้แก่ผู้ปลูกสร้างและเราเอาบ้านไว้ ส่วนคำว่า "ราคาของที่ดินที่เพียงเท่าที่เพิ่มขึ้น" นั้น มิได้หมายความว่าเป็นราคาของตัวบ้านที่สร้างขึ้นนะครับ) แต่ถ้าเรา พิสูจน์ได้ว่าเรามิได้ประมาทเลินเล่อปล่อยปละละเลย ให้คนเข้ามาปลูกบ้านบนที่ดินของเรา เราจะบอกปัดไม่ยอมรับเอาบ้านนั้นก็ได้และเรียกร้องให้เขารื้อถอนออกไป และทำให้ที่ดินเหมือนเดิมก็ได้ แต่มีข้อยกเว้นว่าถ้าการรื้อถอนโรง เรือน ,การทำให้ที่ดินเป็นเหมือนเดิมนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่าย มากเกินสมควร เราจะเรียกร้องให้คนสร้างซื้อที่ดินของเราทั้งหมดหรือบางส่วนตามราคาตลาดก็ได้
  2. ถ้ามีใครมาสร้างบ้านหรือโรงเรือนในที่ดินของเราโดยไม่สุจริต กฎหมายกำหนดว่า คนปลูกสร้างจะต้องทำให้ที่ดินของเราเป็นตามสภาพเดิม เพื่อส่งคืนให้แก่เรา โดยจะต้องรื้อถอนโรงเรือนออกไปด้วยค่าใช้จ่ายของตนเอง เว้นแต่ เราจะเลือกให้ส่งคืนตามสภาพที่เป็นอยู่คือส่งคืนโดยไม่ต้องรื้อบ้านออกไป ด้วย แต่เราจะต้องชดใช้ราคาบ้านนั้นหรือเราจะเลือกใช้ค่าแห่งที่ดินที่เพิ่มขึ้น เพราะมีบ้านเพิ่มบนที่ดินนั้นก็สุดแท้แต่เราจะเลือกวิธีใด
  3. ถ้าเป็นกรณีการสร้างบ้านหรือโรงเรือนรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของเราโดยสุจริต กฎหมายกำหนดว่า คนปลูกสร้างนั้นเป็นเจ้าของโรงเรือนที่สร้างขึ้น แต่ต้องเสียเงินให้แก่เราโดยถือเป็นค่าใช้ที่ดินของเรา และจดทะเบียนสิทธิเป็นภาระจำยอมถ้าต่อมาโรงเรือนนั้นพังทลายสูญสิ้นไป เราก็มีสิทธิเรียกร้องให้เพิกถอนการจดทะเบียนภาระจำยอมนั้นเสียก็ได้
  4. ถ้าเป็นกรณีการสร้างบ้านหรือโรงเรือนรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของเราโดยไม่สุจริต กฎหมายกำหนดว่าเรามีสิทธิเรียกร้องให้คนปลูกสร้างรื้อถอนโรงเรือนออกไปและทำให้ที่ดินของเราเป็นสภาพเหมือนเดิม โดยคนปลูกสร้างจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนเอง

การที่จะบอกว่าคนปลูกสร้างนั้น "สุจริต" หรือ "ไม่สุจริต" เป็นการยากที่จะพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนจะต้องพิจารณาจากพฤติกรรมและปัจจัยประกอบอีกหลายอย่างฉะนั้นถ้าไม่อยากมีปัญหายุ่งยากเช่นนี้ ขอให้หมั่นตรวจสอบดูแลที่ดินของท่านให้ดีว่ามีใครเข้ามาปลูกสร้างหรืออาศัยอยู่บ้าง
อ่านต่อในเรื่อง "มีคนมาปลูกบ้านบนที่ดินของเรา แล้วเราควรทำอย่างไร ?"

สารบัญบทความ

on วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556
หน้านี้นำเสนอเกี่ยวกับ : สารบัญ ซื่งนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์สามารถสืบค้นจากหน้านี้

หน้าสารบัญ

 
 
 
 
 
 
 
 
 


สารบัญ : ความรู้เรื่องที่ดิน กฏหมายที่ดิน และ เทคนิคต่างๆ


-
-
ปล. ในหน้านี้อาจจะมีบทความที่เกี่ยวกับ :  กฏหมาย,ความรู้และเทคนิคเรื่อง “บ้าน” ปะปนอยู่บ้าง   ถือว่าเป็นของแถมนะค่ะ..
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามขอให้สมหวังนะค่ะ  
อ่านต่อในเรื่อง "สารบัญบทความ"

การเลือกซื้อบ้านพร้อมที่ดินหรือบ้านมือสอง

การพิจารณาเลือกซื้อบ้านนอกจากจะดูจากทำเลความเชื่อมั่นในตัวผู้ประกอบการ หรือราคาที่น่าสนใจแล้วอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ผู้ประกอบการงัดออกมาใช้คือ?แบบบ้าน?ที่สวย ต้องตาต้องใจยามแรกพบนั่นเอง
จะ ว่าไปแล้วการเลือกหาบ้านก็ไม่ต่างอะไรกับความรัก แรกเริ่มมักจะตกหลุมรักที่เสน่ห์ภายนอกแต่เมื่อคบกันนานเข้าจึงจะรู้ว่านั่นใช่คนที่ใช่หรือไม่ บ้านก็เช่นกัน บางครั้งคุณอาจจะหลงใหลไปกับแบบบ้านที่ออกแบบมาอย่างทันสมัยแต่พออยู่ๆไปแล้วแบบบ้านที่คิดว่าดีอาจจะไม่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานของคุณก็ได้
ซื้อบ้านราคาถูก

ก่อนที่คุณตัดสินใจซื้อบ้านอยากให้คุณคิด พิจารณาสิ่งต่าง ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ สัก 5อย่างตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้เพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าแบบบ้านที่คุณถูกใจนั้นจะถูกต้องเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของคุณขนาดไหน อย่าลืมว่าโดยปรกติ ชั่วชีวิตหนึ่ง คุณสามารถซื้อบ้านได้แค่หลังเดียว
การจัดพื้นที่ : โดยทั่วไปจะสามารถแบ่งได้เป็น3โซนนิ่งสิ่งที่คุณต้องพิจารณาคือมันสนองตอบต่อกิจกรรมของคนในบ้านเพียงใด โซนนิ่งแรกก็คือพื้นที่ใช้สอยสาธารณะได้แก่ ห้องรับแขก ส่วนนี้ควรติดโถงเข้าด้านหน้าจะได้ไม่ต้องพาแขกทัวร์ทัศนาจรรอบบ้าน ในบ้านขนาดใหญ่จะแยกส่วนนี้ขาดก็ได้ แต่ในบ้านเล็กควรจัดวางไว้ใกล้ห้องทานข้าว
โซน นิ่งที่ 2 คือห้องกึ่งสาธารณะ คือส่วนของบ้านที่ไม่ได้เป็นความลับมากนัก เช่น ห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น ถ้าจะให้ดีทั้ง 2 ห้องนี้ควรอยู่ต่อเนื่องกันเพื่อการใช้ทำกิจกรรมที่ต่อเนื่อง ส่วนห้องครัวนั้น ควรเป็นห้องที่อยู่ทางปลายลมเพื่อที่ว่ากลิ่นจะได้ไม่ไปรบกวนคนในบ้าน
ส่วนสุดท้ายคือห้องส่วนตัว ต้องการความมิดชิด ความเป็นส่วนตัว ห้องนอนที่ดีควรมีช่องเปิดรับลม รับแสงสว่าง ในฤดูร้อนลมจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้หรือใต้ไปทิศเหนือหรือตะวันออกเฉียง เหนือ และจะมีทิศกลับกันในฤดูหนาว เวลาทีคุณจะพิจารณาซื้อบ้านจึงควรคำนึงถึงทิศทางลมในฤดูร้อนเพราะมีระยะเวลา นานกว่า
ส่วนทิศทางของแสงนั้น แน่นอนว่าไม่ควรหันไปทางทิศตะวันตกเพราะเป็นทิศที่รับแดดตั้งแต่บ่ายไปถึง เย็นจะทำให้ห้องร้อน สำหรับผู้ตื่นเช้าควรจัดห้องนอนไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อรับแดดเช้า ส่วนคนตื่นสาย จัดห้องนอนไว้ทางทิศเหนือจะดีกว่า

ขนาดพื้นที่ : สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือจำนวนคนและความจำเป็นในการใช้งาน ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อใช้เป็นหลักในการหาเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งให้มีความพอดี เช่น ห้องรับแขก ถ้าระบุจำนวนแขกไม่ได้ ควรให้ห้องกว้าง ๆ ไว้ก่อน ใช้เฟอร์นิเจอร์ในแบบที่โยกย้ายได้ง่าย ส่วนห้องอาหารยิ่งต้องดูจำนวนคนจะได้รู้ว่าจะใช้โต๊ะในรูปแบบไหน
ห้อง ครัว ควรจัดเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ต่าง ๆ ตามลำดับตั้งแต่การนำอาหารเข้าบ้านเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ส่วนห้องนอน ต้องยอมรับว่าไม่ได้มีกิจกรรมแค่การนอนเท่านั้น อาจจะใช้แต่งตัว ใช้ทำงานด้วยเฟอร์นิเจอร์จึงมีมากมาย เพราะฉะนั้นเตียงนอนคงต้องระบุให้แน่ชัดว่าจะใช้นอนกี่คนจะได้ไม่อึดอัดมาก
ช่องทางเดินในบ้าน : ต้องพิจารณาให้สอดคล้องกันในแต่ละห้องและควรทำให้ทางเดินในบ้านสั้นเพื่อที่ จะเดินจากจุดหนึ่งมายังจุดหนึ่งได้ง่าย มีพื้นที่ใช้สอยมาก ที่สำคัญ ไม่ควรให้ทางเดินในบ้านซับซ้อน วกวน คำนึงถึงการใช้งานด้วย ทางเดินหลัก ๆ ควรจะกว้างหน่อยเพราะใช้บ่อยและบางครั้งอาจจะต้องมีการขนของด้วย
ส่วน บันไดที่ใช้เชื่อมจากชั้นล่างขึ้นชั้นบน ไม่ควรหันไปทางทิศตะวันตกเพราะแสงแดดจะส่องตาเกิดการพลาดพลั้งได้ บันไดที่ดีควรกว้างไม่ต่ำกว่า 1 เมตร ลูกตั้งสูงไม่เกิน 18 เซนติเมตร ลูกนอนไม่น้อยกว่า 27 เซนติเมตร ทำจมูกบันไดด้วยกันการลื่นตก นอกจากนี้จำนวนขั้นบันไดควรจะเป็นเลขคี่ด้วย (ไม่นับชานพัก)

ชัดเจนในสวน : พื้นที่สีเขียวเป็นสิ่งสำคัญมากในปัจจุบัน กลยุทธุ์ของผู้ประกอบการจึงอาจจะมีการจัดสวนให้เพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อ แต่เหตุผลในการตัดสินใจของคุณควรจะดูให้ชัดเจนว่าคุณต้องการสวนนั้นไว้ใช้ทำ อะไร?ใช้งานหรือใช้โชว์ บางครั้งถ้ามีสวนหน้าบ้าน คุณอาจจะไม่ได้ใช้งานเพราะไม่กล้าไปนั่งเล่นเนื่องจากไม่แน่ใจว่าคนอื่นดู อยู่หรือไม่ จึงควรเลี่ยงไปมีสวนหลังบ้านหรือข้างบ้านดีกว่า

ประหยัด : คำ ๆ นี้แหละเป็นปัจจัยที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าควรเป็นบ้านราคาถูก ประหยัดในที่นี้คือระยะเวลาการใช้งาน ควรยาวนานด้วยวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพ ดูแลรักษาง่ายเพื่อความสวยงาม มั่นคง ปลอดภัย ประเด็นที่ไม่ควรมองข้ามคือการวางถึงขยะและถังแก๊ส ไม่ควรต้องให้ผ่านส่วนอื่น ๆ ในบ้านมาก
เมื่อ พิจารณาครบทั้ง 5ข้อแล้ว แบบบ้านที่คุณหมายตามีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ก็ปักใจเลือกซื้อได้เลยแต่คุณก็ต้องไม่ลืมในปัจจัยเกี่ยวกับการซื้อบ้านอื่นๆด้วยไม่ว่าจะเป็นทำเล ชื่อเสียงของผู้ประกอบการ ราคา เป็นต้น
อ่านต่อในเรื่อง "การเลือกซื้อบ้านพร้อมที่ดินหรือบ้านมือสอง"

เทคนิคการเลือกซื้อบ้านฉบับย่อ

on วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556
หลายคนที่กำลังจะหาซื้อบ้านใหม่หรือบ้านมือสองเชื่อว่าหลายคนคงเกิดอาการลังเลใจในเรื่องของหลักการเลือกซื้อบ้านซึ่งเรามีหลักในการสังเกตุลักษณะภายนอกบ้านที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัยดังต่อไปนี้
การเลือกซื้อบ้าน
1. กำแพงที่เก่าดูสกปรก ขึ้นรา หรือกำแพงบ้านสูงมากเกินไป
2. มีต้นไม้ใหญ่อยู่ชิดบ้าน หรือต้นไม้ใหญ่เหี่ยวเฉา ยืนตายอยู่ใกล้บ้าน

ลักษณะภายในบ้านที่ไม่ถูกต้อง

1. ประตูห้องตรงกัน ประตูตรงกับประตูห้องน้ำ ประตูตรงกับเตียงนอน ตรงกับเตา
2. คานต่ำ เพดานต่ำ เพดานเฉียง ฝ้าหลุม หลังคาหลายจั่ว
3. กันสาดกดต่ำมากจนลมหรือพลังเข้าบ้านไม่ได้
4. แสงสว่างไม่พอ ดูมืดอึมครึม อากาศไม่ถ่ายเท
5. บ้านหลายหลังที่อยู่รวมกันจนหลังคาชนกัน
6. ตัวบ้านที่แตกร้าว
7. บันไดตรงกับประตูห้องนอน ห้องน้ำ บันไดอยู่กลางบ้าน
8. หัวเตียงติดกับเตาไฟ โถส้วม ประตู
9. กระจกอยู่ที่หัวนอน หรือส่องมาที่ตัวคน

ปล. หากคุณต้องการที่จะซื้อบ้าน บ้านมือสอง ควรศึกษาจากคำแนะนำในบทความ “เทคนิคการเลือกซื้อบ้าน” ได้เลยค่ะ
อ่านต่อในเรื่อง "เทคนิคการเลือกซื้อบ้านฉบับย่อ"

เทคนิคขายบ้านขายที่ดินอย่างไรให้ทันใจและได้ราคา

ปัญหาสำคัญของการลงทุนในบ้านและที่ดิน คงหนีไม่พ้นปัญหาเรื่องการขาดสภาพคล่อง เนื่องจากการขายบ้านแต่ละครั้ง ทำได้ยากมาก ต้องอดทน ต้องรอคอย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก บางคนใช้เวลาเป็นปี ก็ยังขายไม่ได้ ก็มีปรากฏให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ที่จริงแล้ว สถานการณ์ที่บ้านและที่ดินขายยากนั้น กลับไม่ใช่ภาวะปกติที่เกิดขึ้นเสมอกับการขายบ้านและขายที่ดินตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกัน แต่มันคือปัญหาที่ชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องส่วนตัวของผู้ขายบ้านเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในประเด็นการขาดเทคนิคและวิธีการขายที่เหมาะสมและดีพอนั่นเอง ในต่างประเทศแล้ว การขายบ้านอย่างรวดเร็ว และได้ราคาดี เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่สามารถเรียนรู้และฝึกปฏิบัติกันได้ เพียงทว่าต้องมีความเข้าใจ และดำเนินการอย่างระมัดระวังเท่านั้น คนผู้นั้นก็จะสามารถขายบ้านได้อย่างรวดเร็วทันใจได้อย่างน่าประหลาดใจ โดยไม่ใช่ขายบ้านได้รวดเร็วแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังเป็นการขายที่ได้ราคาในระดับที่น่าพอใจด้วย
เทคนิคขายบ้านขายที่ดิน

ทั้งนี้ เทคนิคการขายบ้าน ที่จะนำเสนอต่อไปนี้ จัดเป็นเคล็ดลับที่มีความน่าสนใจมาก เพราะได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถปฏิบัติได้จริง ขนาดรับประกันผลสำเร็จได้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งมีเคล็ดลับ วิธีการ ที่เป็นลำดับขั้นตอนสำหรับนำไปปฏิบัติดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 ทำความสะอาด ทาสี และซ่อมแซม
เป็นขั้นตอนสำคัญอันดับแรก ที่จะต้องมีการดำเนินการ ก่อนการขายบ้านเสมอ วัตถุประสงค์ของการดำเนินการ ก็เพื่อเป็นการปรับปรุง ตกแต่งภาพลักษณ์ของบ้านให้มีความน่าสนใจและดึงดูดใจมากขึ้น เพื่อให้บ้านพร้อมสำหรับการนำเสนอออกขายนั่นเอง
ปกติไม่ว่าใครก็ตาม ล้วนชอบบ้านที่แลดูใหม่ สดใส และมีชีวิตชีวา ดังนั้นหากเราสามารถทำให้บ้านสนองตอบความชื่นชอบของคนทั่วไปได้ ก็จะเท่ากับเป็นการขยายโอกาสในการขายบ้านให้เพิ่มมากขึ้นได้เป็นอย่างดี ข้อผิดพลาดประการหนึ่ง ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงการขายบ้านเสมอ คือ คนส่วนใหญ่จะลังเลใจในการที่จะต้องเสียเวลา และเงินทองในการซ่อมแซมบ้าน ทาสี และทำความสะอาดบ้าน จึงทำให้การขายบ้านเหล่านั้นต้องล้มเหลวลงตั้งแต่เริ่มต้นไปอย่างน่าเสียดาย โดยทั่วไปแล้ว จุดบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆในความรู้สึกของเจ้าของบ้าน มักกลายเป็นจุดบกพร่องที่มีนัยสำคัญ ในสายตาของผู้ซื้อเสมอ อาทิ รอยรั่วของก็อกน้ำ ปูนฉาบผนังที่แตกร้าว ประตูบ้านที่ส่งเสียงดัง สีที่กะเทาะ คราบสกปรกในบ้าน และคราบน้ำมันในครัว เป็นต้น ขอให้ท่านลองเปลี่ยนความคิด หันมาให้ความสำคัญกับจุดเล็กจุดน้อยเหล่านี้ดู ท่านจะพบว่า สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การขายบ้านของท่านทำได้ง่ายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อขอให้ท่านระลึกไว้เสมอว่า แม้การซ่อมแซมตกแต่งเหล่านี้ จะมีต้นทุนในการดำเนินการอยู่บ้าง แต่หากละเลยไม่ทำแล้ว จะทำให้ราคาขายบ้านของท่าน ลดลงได้มากกว่า 2 เท่า ของต้นทุนที่ต้องเสียไป ยังไม่รวมต้นทุนค่าเสียโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากการที่บ้านขายไม่ออกอีก ไม่รู้เท่าไหร่
ขั้นตอนที่ 2 ประเมินราคาบ้าน
เมื่อได้ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงบ้านให้กลายเป็นสินค้าที่ต้องตาต้องใจของผู้พบเห็นได้แล้ว ขั้นตอนสำคัญต่อมา ก็คือการกำหนดราคาขายบ้านให้เหมาะสมแม้บ้านของท่านจะมีคุณสมบัติที่ดีเด่นเพียงใดก็ตาม แต่การขายบ้าน จะสำเร็จหรือไม่ ยังขึ้นอยู่กับการกำหนดราคาขายเป็นสำคัญ ถ้าราคากำหนดไว้ต่ำเกินไป แม้จะช่วยให้สามารถขายบ้านได้เร็ว แต่ท่านก็จะสูญเสียรายได้ส่วนที่ท่านพึงได้รับไป แต่หากตั้งราคาขายสูงเกินไป ผลที่ตามมาก็จะทำให้บ้านขายไม่ออกซักที ดังนั้นจุดที่เหมาะสมที่สุด ก็คือจะต้องตั้งราคาขายให้สอดคล้องกับราคาตลาดที่แท้จริงของบ้าน จึงจะดีพูดง่าย ๆ ก็คือราคาตลาดแท้จริง มีความจำเป็นมากต่อการใช้ตั้งราคาขายบ้าน ดังนั้นขั้นตอนสำคัญในการขายบ้านอีกขั้นตอนหนึ่งที่ต้องทำ ก็คือการจ้างผู้ประเมินราคามืออาชีพที่มีความน่าเชื่อถือ มาช่วยประเมินหาราคาตลาดแท้จริงให้กับผู้ขายบ้าน เพื่อนำมาใช้ตั้งราคาขายที่เหมาะสมต่อไปผู้ขายบ้าน ยังสามารถใช้รายงานการประเมินราคาที่ได้จากผู้ประเมินราคา นำมาใช้อ้างอิงประกอบการขายบ้านได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยให้ท่านมีความมั่นใจในการขายบ้านเพิ่มขึ้นได้อย่างน่าประหลาดใจ เพราะสามารถลดการโต้แย้งในเรื่องราคาขาย ฝั่งผู้ซื้อ ก็มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ซื้อบ้านแพงเกินไป ส่วนในฝั่งผู้ขาย ก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะขายบ้านราคาถูกเกินไปคนมักมองข้ามความสำคัญ ของการประเมินราคา จึงเกิดข้อผิดพลาดในการกำหนดราคาขายบ้านขึ้นเสมอ ดังนั้นอย่าลังเลใจที่จะจ้างมืออาชีพมาประเมินราคาบ้านให้ เพราะค่าใช้จ่าย เพื่อการดำเนินการ จัดว่าถูกมากเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับ จะเห็นได้จากบ้านราคาหลักล้าน แต่ค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาจะอยู่ในระดับเพียงแค่หลักพันเท่านั้นเอง
ขั้นตอนที่ 3 ช่วยหาแหล่งสนับสนุนการเงินให้ลูกค้าแต่เนิ่นๆ
การขายบ้านแตกต่างจากการขายสินค้าชนิดอื่น ตรงที่การขายสินค้าทั่วไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขเพียงแค่สองอย่างคือสินค้าต้องดี และราคาสมเหตุสมผล แต่สำหรับบ้านแล้ว เงื่อนไขเพียงสองอย่างข้างต้น กลับไม่เพียงพอที่จะทำให้การซื้อขายบ้านเกิดขึ้นได้ เพราะการซื้อขายบ้าน ส่วนใหญ่ ยังต้องพึงตัวกลางที่เป็นสถาบันการเงิน มาช่วยสนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ซื้อ เพื่อทำให้การซื้อขายเกิดขึ้นได้โดยทั่วไปแล้ว เงื่อนไขทางการเงิน ที่เป็นตัวกำหนดความเป็นไปได้ในการซื้อขายบ้านมีอยู่ 2 เรื่องด้วยกัน คือ เรื่องแรก เกี่ยวข้องกับเงินดาวน์ว่าจะต้องจ่ายมากน้อยแค่ไหน และเรื่องที่สองเกี่ยวข้องกับจำนวนเงินผ่อนชำระรายเดือน ถ้าเงื่อนไขทั้งสองเรื่อง สอดคล้อง และเหมาะสมกับสถานภาพของผู้ซื้อเมื่อไหร่ โอกาสขายบ้านก็จะเปิดกว้างขึ้น ในทางตรงกันข้ามหากไม่สอดคล้อง ก็เท่ากับเป็นการปิดโอกาสการขาย ให้หยุดชะงักลงในขั้นตอนนี้อย่างน่าเสียดายกลยุทธ์การขยายโอกาสการขายบ้านให้กว้างขึ้น จึงสามารถทำได้โดยการลดเงินดาวน์ และยืดระยะเวลาการกู้ยืมเงินให้ยาวนานขึ้น ซึ่งจะต้องอาศัยการติดต่อ เจรจาต่อรองเงื่อนไข กับ สถาบันการเงินหลาย ๆ แห่ง ยกตัวอย่างเงื่อนไขการกู้ยืมอันหนึ่ง ที่จัดว่าเกื้อหนุนให้การขายบ้านมีความคล่องตัวมาก ก็คือเงื่อนไขการขายบ้านแบบไม่มีเงินดาวน์ และกู้ยืมได้ยาวนานถึง 30 ปี ซึ่งจะช่วยให้ภาระการผ่อนชำระรายเดือนลดต่ำลงได้มากที่สุดขอให้ระลึกไว้เสมอว่า มีผู้ซื้อบ้านน้อยมาก ที่มีความรู้และความเข้าใจในเรื่องเงินกู้ซื้อบ้าน ดังนั้นหากต้องการให้โอกาสการขายบ้านมีมากขึ้น ท่านจำเป็นต้องเข้าไปช่วยเหลือผู้ซื้อในเรื่องเหล่านี้ และให้ความกระจ่างกับลูกค้าว่าควรกู้ยืมเงินกับสถาบันการเงินใดดี เงินดาวน์ และ เงินผ่อนชำระรายเดือน ต้องจ่ายเท่าไร คุณสมบัติของผู้ขอกู้ยืมเป็นอย่างไร อัตราดอกเบี้ยเท่ากับเท่าไร
ขั้นตอนที่ 4 ปรึกษาและขอคำแนะนำจากนักกฎหมาย
ขั้นตอนนี้มีความสำคัญ เนื่องจากจำนวนเงินในการซื้อขายบ้านสูงมาก และขั้นตอนการดำเนินการกว่าจะได้เงินค่าขายบ้านจากลูกค้า ล้วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายทั้งสิ้น ดังนั้น เพื่อช่วยให้การซื้อขายเป็นไปอย่างรัดกุม จะต้องมีที่ปรึกษา หรือขอคำแนะนำจากนักกฎหมายทุกครั้งก่อนจะดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งนักกฎหมายในที่นี้อาจหมายถึงเพื่อนหรือคนรู้จักที่มีความรู้ทางกฎหมาย ก็ได้เคล็ดลับสำคัญในเรื่องนี้ก็คือ ทุกครั้งที่มีการทำสัญญาต่าง ๆ ระหว่างท่านกับผู้ซื้อ จะต้องทำอย่างเป็นทางการหรือเป็นกิจจะลักษณะ และมีผู้รู้ทางกฎหมายอยู่ด้วยเสมอ เพราะนอกจากจะเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงให้กับตัวท่านได้ทางหนึ่งแล้ว ยังช่วยให้การซื้อขายมีความน่าเชื่อถือในสายตาผู้ซื้อได้ด้วย
ขั้นตอนที่ 5 จัดเตรียมสัญญาการซื้อขายบ้านไว้ให้พร้อม
ทุกครั้งที่ท่านวางแผนจะขายบ้าน ท่านจะต้องมีการจัดเตรียมสัญญาและใบเสร็จต่าง ๆ ที่จำเป็นไว้ให้พร้อม เมื่อไรก็ตาม มีความจำเป็นต้องทำสัญญากัน จะได้สามารถกระทำได้เลยในทันที ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดหา
ขั้นตอนที่ 6 กระตุ้นการขาย
ขั้นตอนนี้จะเกี่ยวข้องกันการลงโฆษณาขายบ้านในสื่อต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขายบ้านขึ้น ต้องเน้นเลือกสื่อที่เข้าถึงกลุ่มของผู้ซื้อบ้านจริงๆ และควรพุ่งเป้าโฆษณา ไปยังบริษัทขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อจับลูกค้ากลุ่มพนักงานใหม่ และกำลังหาบ้านอยู่อาศัยเป็นของตนเองอยู่สำหรับเคล็ดลับการโฆษณาขายบ้านในหนังสือพิมพ์รายวัน ที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่ง ก็คือ เลือกลงโฆษณาเฉพาะในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ เท่านั้น และนัดเปิดบ้านให้ลูกค้าดูเฉพาะในช่วงบ่ายโมงถึงห้าโมงเย็นวันอาทิตย์ กลยุทธ์นี้นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเป็นการบริหารเวลามีประสิทธิภาพด้วย
ขั้นตอนที่ 7 ทำการขายบ้าน
ในวันที่นัดลูกค้าเพื่อเปิดให้ดูบ้าน เทคนิคการปิดการขายที่มีประสิทธิภาพอันหนึ่ง ก็คือจัดทำสรุปสาระสำคัญของบ้านที่ขาย ในกระดาษแผ่นเดียว แจกให้กับลูกค้าที่มาดูบ้านทุกราย เพื่อเป็นการเน้น และตอกย้ำจุดน่าสนใจของบ้านให้กับลูกค้า ขอให้ระลึกไว้เสมอว่าช่วงบ่ายวันอาทิตย์เป็นช่วงเวลาทองในการทำธุรกิจของท่าน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และจงอย่าเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขายบ้านเป็นอันขาดโปรดระลึกไว้เสมอว่า การขายบ้านด้วยตัวเอง หากทำได้แล้ว นอกจากจะช่วยให้ได้เงินจากการขายอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว ตัวท่านเองยังได้รับความภาคภูมิใจเป็นของแถมอีกต่างหาก ท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านโชคดีในการขายบ้านของท่านนะคะ
อ่านต่อในเรื่อง "เทคนิคขายบ้านขายที่ดินอย่างไรให้ทันใจและได้ราคา"

ที่ดิน คือ ? เรามาดูความหมายกันว่าหมายถึงอะไร

on วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556
"ที่ดิน"เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อความเป็นอยู่และการดำรงชีวิตของเราเป็นอย่างมาก เพราะที่ดินเป็นปัจจัยเบื้องต้นของการดำเนินชีวิตของสังคมเราที่ขาดเสียไม่ได้เป็นรากฐานของบ้านเรื่อนที่อยู่อาศัยของชาวบ้านประชาชนโดยทั่วไป ไม่ว่าจะอยู่ในเขตต่างจังหวัด หรือในเขตมหานคร และ ที่ดินยังเป็นฐานในการผลิตปัจจัยสำคัญในเรื่องของอาหารให้กับคนเราอีกด้วย ดังนั้นที่ดินจึงมีความ สำคัญ และได้กลายไปเป็นทรัพย์สินที่มีค่าสำหรับประชาชน

ที่ดินคือ ที่ดินหมายถึง 
ปัจจุบันประชาชกรในประเทศของเราได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากและมีแนวโน้มที่จะขึ้นไปเรื่อยๆ ประกอบกับเศรษฐกิจของประเทศก็เจริญเติบโตไปตามยุคสมัย จนเราแทบจะปรับตัวตามไม่ทัน ต่อการเปลี่ยนแปลงที่ได้เกิด แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่านั้น ก็คือ ความต้องการในการใช้ที่ดินที่มีแต่จะเพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัวแต่ในขณะเดียวกันจำนวนของที่ดินกลับมีจำนวนที่จำกัด และกระจุกตัวอยู่กับคนบางกลุ่มบางพวก ดังนั้นการแย่งชิง การบุกรุกเข้าครอบครองที่ดินสาธารณะจึงได้เกิดมีขึ้นอยู่ทั่วทุกหัวระแหง ซึ่งรวมไปถึงปัญหาของการบุกรุกป่าของชาวบ้านเพื่อจะเข้าไปทำประโยชน์ตามที่เป็นข่าวอยู่บ่อยๆ จึงมีมากเพิ่มตามไปด้วย
ปัจจุบันกฎหมายที่ดินได้เข้ามามีบทบาทในการเข้ามาควบคุมและยังเป็นหลักเกณฑ์ในการได้มาซึ่งที่ดินของชาวบ้านตามกฎหมาย ซึ่งต้องเป็นไปตามระเบียบ ขั้นตอน ตามที่กฎหมายกำหนดไว้แทบทั้งสิ้นทำให้ปัจจุบันการได้มาของที่ดินของชาวบ้านและประชาชน จึงเป็นการได้มาโดยการซื้อขายเปลี่ยนมือกันต่อๆ มา รวมทั้งการได้รับมาโดยการตกทอดเป็นมรดกจากพ่อสู่ลูกเป็นส่วนใหญ่“ที่ดิน”ตามภาษาชาวบ้านนั้นเป็นที่เข้าใจได้ง่ายๆว่าคือพื้นดินทั่วไป แต่ในความหมายของกฎหมายที่ดินนั้น“ที่ดิน”มีความหมายกว้างกว่าตามความหมายธรรมดาของชาวบ้าน โดยตามกฎหมายที่ดินนั้น รวมไปถึง ภูเขา ห้วย หนอง คลอง บึง บาง ลำน้ำ ทะเลสาบ เกาะ และที่ชายทะเล ด้วยนะค่ะ….
อ่านต่อในเรื่อง "ที่ดิน คือ ? เรามาดูความหมายกันว่าหมายถึงอะไร"

การเลือกที่ดินสร้างบ้านให้ถูกหลักฮวงจุ้ย

on วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556
“การสร้างบ้านสักหลัง ต้องดูอะไรบ้าง”
       ”นี่เป็นคำถามเบสิค ที่ผมมักจะถูกถามอยู่เสมอ ปัจจัยแรกที่ควรจะนึกถึงก็คือ “ที่ดิน” ครับ หลายคนมองข้ามเรื่องนี้ไป มัวแต่ไปคิดแต่เรื่องแบบบ้าน เลือกผังภายในบ้านเสียเป็นส่วนใหญ่ เหตุผลที่ต้องดูที่ดินก่อน ก็เพราะที่ดินเป็นรากฐานหรือพื้นฐานของบ้าน อย่าลืมว่าบ้านสร้างอยู่บนพื้นดิน ถ้าพื้นดินไม่ดีเสียแล้ว ย่อมส่งผลกระทบต่อตัวบ้านทั้งหลังอย่างแน่นอน

ที่ดินหลักฮวงจุ้ย
    
  วิธีดูที่ดินที่จะสร้างบ้านนั้น ให้พิจารณาตามนี้ครับ
       ”รูปทรงของที่ดิน การพิจารณารูปทรงที่ดินจะสัมพันธ์กับ
       ” การวางตำแหน่งของตัวบ้าน โดยปกติรูปทรงที่ดินมักจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือจตุรัส ซึ่งก็ถือว่าเป็นรูปทรงที่ดีอยู่แล้ว การวางตำแหน่งบ้านสามารถทำได้ง่าย แต่ถ้าที่ดินเป็นรูปทรงอื่น เช่น สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยมคางหมู รูปตัวแอล หรือรูปทรงอื่นๆที่ไม่ใช่สี่เหลี่ยมปกติ การวางตำแหน่งบ้านลงบนที่ดินจะต้องพิจารณากันให้ดีล่ะครับ
       ”ที่ดินรูปสามเหลี่ยม (ชายธง) การวางตำแหน่งบ้านจะทำได้ยากมาก เพราะมีเหลี่ยมมุมทั้งสามด้าน ตามหลักจะให้วางตัวบ้านได้เพียงด้านที่เป็นฐานของสามเหลี่ยมเท่านั้น ด้านที่เฉียงจะห้ามวาง เพราะถือว่า หลังบ้านไม่มั่นคง
หลักฮวงจุ้ย
  ที่ดินรูปตัวแอล ก็ให้เลือกวางตัวบ้านที่ฐานตัวแอลเช่นเดียวกัน เพราะส่วนฐานจะกว้าง ส่วนด้านแคบก็กำหนดให้เป็นทางเข้าบ้านแทน
สร้างบ้านตามหลักฮวงจุ้ย
  ที่ดินรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ในทางฮวงจุ้ยกำหนดว่า ห้ามวางตัวบ้านด้านเฉียงของที่ดิน ความหมายก็จะคล้ายกับที่ดินรูปสามเหลี่ยม การวางตัวบ้าน จึงต้องเลือกด้านที่ตรงเป็นหลัก
ที่ดินฮวงจุ้ย
การปรับระดับพื้นที่ดิน  การปรับสภาพภายในของที่ดินที่จะสร้างบ้านนั้น ถ้าที่ดินมีความกว้างมากพอ ในทางฮวงจุ้ยจะแนะนำให้ปรับพื้นที่ดินให้มีลักษณะเป็นเนิน
        แล้วสร้างบ้านบนเนิน บ้านจะดูโดดเด่น มีสง่า ถูกลักษณะชัยภูมิที่เป็นเลิศ
        แต่มีข้อสังเกตอยู่อย่าง หนึ่งคือ การปรับระดับพื้นจะต้องไล่ระดับที่ดูแล้ว ไม่รู้สึกว่าแตกต่างกันมาก ไม่สูงชันจนเกินไป ไม่เป็นลักษณะขั้นบันได พูดง่ายๆ เวลาเดินเข้าบ้านหรือขับรถ จะต้องราบรื่น ไม่รู้สึกสะดุด ก็ถือว่าใช้ได้ครับ
ที่ดินกับขนาดบ้านต้องสมดุล การจะสร้างบ้านหลังใหญ่แค่ไหนนั้น ต้องดูขนาดของพื้นที่ดินเป็นสำคัญครับ ประเภทสร้างบ้านเต็มพื้นที่ดิน ถือว่าฮวงจุ้ยเสีย เพราะสัดส่วนระหว่างหยิน-หยางไม่สมดุล ไม่มีที่ว่างให้หายใจกันเลยครับ
        สัดส่วนที่เหมาะสม ในทางฮวงจุ้ยระบุเอาไว้ว่า ให้เหลือที่ว่างที่เป็นที่ดินครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว เช่น มีที่ดิน 100 ตร.วา ให้เป็นตัวบ้านได้ 50 อีก 50 เป็นที่ดินว่างทำเป็นสนาม กรณีกลับกัน ถ้าเหลือที่ดินมากเกินไป ก็ไม่สมดุลเช่นเดียวกัน เช่น ที่ดิน 1 ไร่ ขนาดของบ้านแค่ 50 ตร.วา วิธีแก้ไขในกรณีนี้ไม่ยาก เพียงแต่ทำพื้นที่ที่เหลือจัดทำเป็นสวนหย่อม สวนผลไม้ สวนครัว หรือบางบ้านอาจทำเป็นสวนน้ำก็ได้
การเลือกขายซื้อที่ดินตามหลักฮวงจุ้ย
ห้ามปล่อยพื้นที่ทิ้งไว้เฉยๆ เพราะจะก่อสภาพหยินที่นิ่งตาย จะทำให้ฮวงจุ้ยเสีย การทำเป็นสวนก็เพื่อให้เกิดกิจกรรม สร้างสภาพที่เคลื่อนไหว ให้คนในบ้านได้มีโอกาสเดินไปบริเวณนั้น ไปดูแลเอาใจใส่ ที่ดินที่นิ่งก็จะไม่รกร้างว่างเปล่า
        เห็นมั้ยครับ แค่เรื่องที่ดินที่จะสร้างบ้านเรื่องเดียว ก็ต้องพิจารณากันมากพอดู การจะเลือกที่ดินให้ได้ตามหลักของฮวงจุ้ยนั้น ไม่ใช่ง่ายเลย แต่ก็ไม่ถึงกับยากเย็นแสนเข็ญหรอกครับ เพียงแต่รู้จักเลือกตั้งแต่แรกก็สามารถวางแผนสร้างบ้านให้เหมาะกับที่ดินได้ แล้วครับ
อ่านต่อในเรื่อง "การเลือกที่ดินสร้างบ้านให้ถูกหลักฮวงจุ้ย"

การป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับที่ดิน

1. ควรเก็บรักษาโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3 หรือ นส.3ก) ไว้ในที่ปลอดภัย ถ้ามีแขกแปลกหน้าขอดูโฉนดที่ดินหรือ นส.3 โดยอ้างว่า มีคนต้องการจะซื้อให้ระมัดระวังเพราะผู้ทุจริตอาจนำฉบับปลอมมาเปลี่ยนได้

2. อย่าให้ผู้อื่นยืมโฉนดที่ดิน หรือ นส.3 ไปไม่ว่ากรณีใดๆ

3. ในกรณีโฉนดที่ดิน หรือ นส.3 สูญหายหรือถูกลักให้รับแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน (ตำรวจ) โดยเร็วแล้วนำใบแจ้งความไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ดินเพื่อขอให้ออกใบ แทนใหม่

4. อย่าเซ็นชื่อในหนังสือมอบอำนาจโดยไม่กรอกข้อความเป็นอันขาด ก่อนเซ็นชื่อให้กรอกข้อความในใบมอบให้ครบถ้วนและจะมอบให้ไปทำนิติกรรมเรื่อง ใดก็ให้เขียนลงไปให้ชัดเจน เช่น จะขายก็ว่าขาย จะให้ก็ว่าให้

5. ควรพิจารณาถึงบุคคลที่จะรับมอบอำนาจจากท่าน ควรเป็นบุคคลที่ท่านเชื่อถือหรือรู้จักชอบพอกันมานาน หรือเป็นญาติพี่น้องกัน อย่ามอบอำนาจให้กับผู้ที่ไม่รู้จักมักคุ้นกันมาก่อน

               ถ้าไม่จำเป็นจริงๆควรไปทำธุรกิจต่างๆ เกี่ยวกับที่ดินด้วยตนเองจะเป็นการปลอดภัยและสะดวกกว่า แม้จะเสียเวลาไปบ้างก็ยังดีกว่าสูญเสียทรัพย์

ป้องกันการโกงที่ดิน

6. ถ้ามีเวลาว่างควรนำโฉนดที่ดิน หรือ นส.3 ไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินว่าที่ดินของท่านยังอยู่ปกติและมีหลักฐานถูกต้อง ตรงกับฉบับที่สำนักงานที่ดินหรือไม่เพียงใด

7. ก่อนจะรับซื้อ รับซื้อฝาก หรือรับจำนองที่ดินควรไปตรวจสอบดูที่ดินให้แน่นอนถูกต้องตรงกับหลักฐานตามโฉนดที่ดินหรือ นส.3ถ้าสงสัยให้ไปขอตรวจสอบหลักฐานที่ดินก่อนหรือขอสอบเขตว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกันหรือไม่

8. ควรติดต่อกับเจ้าของที่ดินโดยตรง

9. อย่าทำสัญญาให้กู้ยืมเงินกันเอง โดยรับมอบโฉนดที่ดิน หรือ นส.3 ไว้เป็นประกันเป็นอันขาด เพราะอาจเป็นฉบับของปลอม ทางที่ดีควรไปจดทะเบียนรับจำนอง ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงจะปลอดภัย

10. การซื้อขายที่ดินมีโฉนด ผู้ซื้อขายชอบที่จะไปจดทะเบียนโอนที่สำนักงานที่ดินและชำระเงินทั้งหมดที่ สำนักงานที่ดิน ต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดินขณะจดทะเบียนโอนที่ดิน ซึ่งอาจชำระเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คก็ได้ เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น หากชำระก่อนการจดทะเบียนแล้วผู้ขายอาจบิดพลิ้วไม่โอนที่ดินให้หรือนำไปโอน ขายให้บุคคลภายนอก

                ก่อนที่เจ้าพนักงานที่ดินจะจดทะเบียนจะสอบถามผู้ขายว่าได้ชำระเงินแล้วหรือยัง ผู้ขายก็อาจเรียกให้ผู้ซื้อชำระเงินต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดินหากผู้ขายแจ้งว่ายังไม่ได้รับชำระเงินเจ้าพนักงานที่ดินจะไม่จดทะเบียน ซื้อขายให้ ปัญหาที่เกิดขึ้นมักเกิดจากผู้ขายยังไม่ได้รับชำระเงินค่าที่ดินครบถ้วนโดย จดทะเบียนโอนขายให้ผู้ซื้อไปก่อน ภายหลังผู้ซื้อบิดพลิ้ว ไม่ชำระเงินส่วนที่เหลือ ผู้ขายจึงไปฟ้องร้องเรียกเงินค่าที่ดินส่วนที่ยังไม่ได้รับจากผู้ซื้อ แต่ในสัญญาซื้อขายที่ดินระบุว่า “ผู้ซื้อได้ชำระและผู้ขายได้รับเงินค่าที่ดินรายนี้เสร็จแล้ว” ศาลได้พิจารณาแล้วว่าข้อความดังกล่าวในสัญญาแสดงว่าผู้ขายยอมรับว่าผู้ซื้อ ได้ชำระเงินค่าที่ดินทั้งหมดให้ผู้ขายแล้วในวันทำสัญญา การที่ผู้ขายนำพยานบุคคลมาสืบว่ายังไม่ได้รับชำระเงินครบถ้วนเป็นการนำสืบ เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญาต้องห้ามมิให้ศาลยอมรับฟังแม้ผู้ขายจะนำเจ้า พนักงานที่ดินมาเป็นพยาน หากในสัญญาระบุว่าผู้ขายได้รับชำระเงินแล้ว เจ้าพนักงานที่ดินก็ต้องเบิกความไปตามสัญญาว่า ผู้ขายได้รับชำระเงินแล้วแม้ว่าความจริงเจ้าพนักงานที่ดินจะรู้ว่ายังชำระ เงินไม่หมดก็ตาม มิฉะนั้นเจ้าพนักงานที่ดินก็จะมีความผิด เมื่อทราบว่ายังไม่ชำระเงิน เหตุใดจึงจดทะเบียนโอนให้และยังระบุในสัญญาว่าผู้ขายได้รับชำระเงินแล้วเท่า กับ

ผู้ขายขายที่ดินแต่ไม่ได้เงิน หรือได้ไม่ครบถ้วน

                ทางแก้ไข หากผู้ขายยังไม่ได้รับชำระเงินบางส่วน ควรแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินบันทึกไว้ในสัญญา และขอจดทะเบียนบุริมสิทธิ คือสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ก่อนผู้อื่นในหนี้ส่วนนั้น เพื่อป้องกันมิให้เจ้าหนี้อื่นบังคับชำระหนี้เอาจากที่ดินแปลงนี้ก่อนผู้ขาย

อ่านต่อในเรื่อง "การป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับที่ดิน"
Copyright © ที่ดินขายซื้อ
Mangpor by ที่ดิน ที่ดินราคาถูก ซื้อขายที่ดินเปล่า ซื้อขายบ้านและบ้านมือสอง กฏหมายเทคนิคความรู้ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์